ผ่านมานานเกือบ 1 ปี สำหรับการจากไปของนักแสดงสาวสวย แตงโม นิดา ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 ศาลจังหวัดนนทบุรี 6 ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ แตง โมนิดา ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ตามหมายศาลพร้อมกับฝ่ายผู้เสียหายคือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ซึ่งเป็นคุณแม่ของน้องแตงโม เพื่อนัดตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนจะมีคำสั่งนัดหมายเพื่อพิจารณาคดีต่อไป
ซึ่งทางด้านคุณแม่ของน้องแตงโมก็ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรีพร้อมกับนายชัยวัฒน์โลมากูลที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายและทีมทนายความ ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีคุณแม่ของน้องแตงโมได้บอกว่า วันนี้ทีมทนายได้นำพยานวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญใหม่ในคดีนี้ มายื่นต่อศาล เพื่อใช้เป็นการสืบพยานในการพิจารณาคดี และเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องค่าชดเชยเยียวยากับทางฝ่ายเจ้าจำเลยที่เหลือ แม่จะขอพูดคุยกับฝ่ายจำเลยทั้งหมดก่อนในวันนี้
ด้านทนายของแม่น้องแตงโม กล่าวว่าแม่ยังมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายตามสิทธิ์ในคดีแพ่งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอส่วนของอาญา ทนายได้ทำวัตถุประยานหลักฐานขึ้นใหม่ยื่นประกอบการพิจารณากับทางศาล และเตรียมที่จะแถลงต่อศาลด้วย เนื่องจากพยานวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานใหม่มีความสำคัญในคดีนี้มาก ทางทีมทนายเองเห็นควรว่าจะร่วมเป็นโจทย์กับทางอัยการในการยื่นฟ้องคดีใหม่
ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายนั้น คุณแม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องได้ตลอดเวลาและไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายมาตรา 44/1 สัญญาประนีประนอมบางส่วนแล้วก็ตาม แต่คดีนี้ยังไม่ถึงการพิพากษา ทำให้สัญญายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดยเฉพาะเมื่อพบกับพยานวัตถุใหม่ที่สำคัญในรูปคดี พยานวัตถุใหม่ที่ทีมทนายความเตรียมยื่นต่อศาลจังหวัดนนทบุรีในการสืบพยานนั้น เป็นภาพจากกล้องหน้ารถและอุปกรณ์หน่วยบันทึกความจำหรือเมมโมรี่การ์ดนั่นเอง ซึ่งติดไว้ในรถยนต์ ทะเบียน ฒว13 กรุงเทพมหานครของ แตงโม นิดา
โดยวัตถุพยานชิ้นใหม่นี้ทางทีมทนายความได้นำมาจากการกู้ข้อมูลของบริษัทผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ จนพบว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีบางคนได้ทำการลบล้างข้อมูลบางส่วนในหน่วยบันทึกข้อมูลความทรงจำออกไป
ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ในคืนวันเกิดเหตุพร้อมกับหนังสือคำร้องอีก 2 ฉบับเพื่อใช้สิทธิ์ของผู้เสียหายที่ยังติดใจในคดีนี้ ร่วมกับหนังสืออีก 2 ฉบับที่ทางทีมทนายความจะยื่นร้องต่อศาลเพื่อขอร่วมเป็นโจทก์กับทางอัยการเพื่อฟ้องร้องในคดีใหม่อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก สยามนิวส์