จนทางครูต้องขออนุญาตให้พ่อลูกได้เจอกันซึ่งทางผอ.ใจดีให้เจอได้ ซึ่งทางครูได้โพสต์ภาพสุดประทับใจของ 2 พ่อลูกพร้อมทั้งเล่าว่า “พ่อขอโทษพ่อออกไปพ่อจะเป็นคนดี “เหตุการณ์ที่แสนประทับใจ…แต่เป็นความประทับใจที่หดหู่สุดๆ
ค่ายคุณธรรมครั้งนี้ในขณะที่เข้าไปดูงานที่เรือนจำในแดน 7 ผมเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนมองนักโทษชายอยู่ด้วยแววตาที่แสนเศร้าสักพักนึงน้ำตาเด็กคนนี้ไหลออกมานองหน้า#
ที่น่าแปลกใจนักโทษคนที่เด็กผู้ชายคนนี้ยืนมองอยู่นั้นก็นั่งร้องไห้เหมือนกัน…ผมเดินไปถามน้องคนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นประโยคที่น่าสะเทือนใจคือ ครูครับ .ผมเจอพ่อ ผมตกใจมากๆ เลยถามว่าอยากคุยกับพ่อไหมน้องพยักหน้า
ผมเลยขออนุญาตผู้คุมให้นักโทษมาเจอกับน้องคนนี้ได้ไหม ปรากฎว่าท่านผอ.ท่านเมตตาครับ ทุกท่านเชื่อไหม ช่วงเวลาที่พ่อลูกเจอกัน ไม่มีใครสักคนกลั้นน้ำตาไว้ได้ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายแกร่งๆอย่างครูต่าย
สองคนโผเข้ากอดกันทั้งน้ำตา ผู้เป็นพ่อหอมแก้มลูก หอมแล้วหอมอีกอยู่อย่างนั้น พรั่งพรูคำพูดออกมามากมาย ผมจับใจความได้แค่ว่า พ่อคิดถึง พ่อขอโทษ พ่อออกไปพ่อจะเป็นคนดี อย่าดื้อนะลูก
ประโยคหนึ่งที่น่าสะเทือนใจคือ หนูอายเพื่อนไหมลูกอายไหมพ่อติดคุก เด็กผู้ชายคนนี้ตอบทั้งน้ำตาว่า ไม่อายครับ เป็นคำตอบทั้งน้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีความกตัญญูอยู่เต็มหัวใจ ไม่สนใจว่าใครจะเห็น ไม่สนใจว่าใครจะมองแบบไหน สนใจแต่เพียงว่าเขาได้กอดพ่อเขา เขาได้เจอพ่อของเขา
ภาพสุดท้ายแห่งความหดหู่นี้คือ การก้มลงกราบที่เท้าผู้พ่อของหนุ่มน้อยคนนี้ ทุกท่านครับ ผมมั่นใจเหลือเกิน ถ้าพ่อของน้องคนนี้เลือกได้ หรือย้อนเวลาได้ เขาคงไม่ทำผิดจนต้องถูกจองจำ เขาคงไม่อยากเจอลูกในสภาพของการเป็นนักโทษ ที่สำคัญ วันนี้เขาไม่สามารถย้อนเวลาต่างๆได้
แต่เรื่องราวของสองพ่อลูกคู่นี้คงเป็นอุทธาหรณ์สอนใจสำหรับผู้คนที่ยังมีอิสรภาพได้อีกมากมายหลายคน ท่านไม่ต้องรอย้อนเวลาใดๆ เพราะท่านยังไม่ได้พลาดจนถูกตัดสินให้ต้องจองจำในคุก แสดงว่าท่านยังมีโอกาส…จงใช้โอกาสที่ได้นี้ให้สมบูรณ์และงดงามที่สุด เพื่อตัวท่าน ครอบครัวท่าน และเพื่อแผ่นดินไทย” ซึ้งมากๆเลยค่ะ-